#ต้นโอบะ เป็นพืชล้มลุกตระกูลเดียวกับกะเพรา โหระพา และสะระแหน่ กระจายพันธุ์อยู่ในประเทศญี่ปุ่น สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน แต่ที่นิยมคือใบที่มีรูปทรงกลมปลายแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย กลิ่นหอมฉุน
![](https://www.kasetpure.com/wp-content/uploads/2022/09/307447380_1992546650931303_8843302145983655752_n.jpg)
ปัจจุบัน มีผู้ปลูกอยู่ในประเทศไทยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ที่สำคัญโอบะเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ในพื้นที่ดินร่วนซุยและน้ำไม่ท่วมขัง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีแดดรำไร แสงประมาณ 60%
![](https://www.kasetpure.com/wp-content/uploads/2022/09/306991613_1992546637597971_1901826374221490438_n.jpg)
ต้นโอบะ มีระยะเวลาปลูกประมาณ 50-60 วัน จะเริ่มเก็บใบ และจะมีอายุการเก็บได้ประมาณ 4-5 เดือน จากนั้นตัดแต่งกิ่งหรือปลูกใหม่ ขึ้นอยู่กับสภาพของต้นและแปลงปลูกนอกจากนี้ ต้นโอบะยังเป็นพืชที่ดูแลง่าย ให้น้ำวันละ 1 ครั้ง ฉีดปุ๋ยบำรุงต้นและใบสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หากต้นมีปริมาณใบมากเกินไปก็แต่งทรงพุ่มให้โล่งเพื่อให้แสงส่องผ่านป้องกันโรคและแมลง
![](https://www.kasetpure.com/wp-content/uploads/2022/09/307357878_1992546697597965_860953656392141075_n.jpg)
สำหรับต้นทุนการสร้างโรงเรือน ค่าเมล็ดพันธุ์ และวางระบบน้ำ จะใช้ต้นทุนประมาณ 50,000 บาทต่อไร่ ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการลงทุนครั้งเดียว ส่วนการจำหน่าย ตัดใบ นับใบขายได้ใบละ 50 สตางค์ ถึง 1 บาท ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 70,000 บาท ต่อเดือน ต่อไร่
![](https://www.kasetpure.com/wp-content/uploads/2022/09/307360329_1992546620931306_8446595355623971213_n.jpg)
ขอบคุณภาพ-ข้อมูล : https://www.technologychaoban.com
ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999
ทักแชท https://m.me/kasetnewstv
ไลน์ @Kasetnews หรือกด
https://line.me/ti/p/%40kasetnews
กด Like
และ ติดตามเพจ
เพื่อรับข่าวสารด้านเกษตรก่อนใครได้ที่นี่
#ช่องเกษตรนิวส์ ดูได้ที่กล่อง PSI หมายเลข 72