? ปลูกอะโวกาโดแซมต้นกาแฟ ไอเดียแปลกใหม่ที่สร้างรายได้ให้ชาวเขาจังหวัดตาก
—————————
จังหวัดตาก เป็นหนึ่งในพื้นที่ตัวอย่างของการบริหารจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนควบคู่กับการส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่สูง สนองพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ ในเรื่อง “สร้างป่า สร้างอาชีพ” ได้อย่างดีเยี่ยม จากเดิมที่ชาวบ้านเคยปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักประเภทกะหล่ำ ฯลฯ จนเต็มดอย ทุกวันนี้เกษตรกรชาวเขาในพื้นที่สูงเหล่านี้เริ่มหันมาปลูกไม้ยืนต้น เช่น ต้นอะโวกาโด คู่กับการปลูกต้นกาแฟ
.
“คุณหนึ่ง” คุณอิทธิพล กำลังมาก เกษตรกรหัวก้าวหน้า ในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ที่ผันตัวเองมารับซื้อสินค้าเกษตรส่งขายในตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง และห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่งในเมืองกรุง พาสื่อมวลชนไปเยี่ยมชมแหล่งปลูกอะโวกาโดในเขตพื้นที่ดอยมูเซอ จังหวัดตาก คุณหนึ่ง แนะนำให้รู้จัก “อาเปา” หรือ คุณศตวรรษ แซ่ว่าง เกษตรกรคนเก่ง ที่ปลูกอะโวกาโดคุณภาพดี จนประสบความสำเร็จมีรายได้ดีในระดับหนึ่ง
.
หลังจากเขาสังเกตบรรยากาศการซื้อขายสินค้าเกษตรที่ตลาดมูเซอใหม่มา 5-6 ปี พบว่า ผู้บริโภคชอบซื้ออะโวกาโดกันมาก แถมราคาไม่ตก อย่างน้อยเกษตรกรจะมีรายได้จากการขายผลผลิตไม่ต่ำกว่า 20-30 บาท ต่อกิโลกรัม ทำให้อาเปามั่นใจว่า อะโวกาโด เป็นไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าปลูก เพราะปลูกดูแลง่าย แถมได้ราคาสูง สร้างรายได้ที่ดีอย่างแน่นอน
.
อะโวกาโด (avocado) เป็นผลไม้ที่มากคุณประโยชน์และดีต่อสุขภาพ สามารถรับประทานสดได้ มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวประมาณ 8-20 เปอร์เซ็นต์ ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย วิตามินสูง นอกจากให้คุณค่าทางอาหารแล้ว ยังเป็นวัตถุดิบเพื่อการสกัดน้ำมันในอุตสาหกรรม
.
เนื่องจากไม้ผลชนิดนี้เป็นพืชใหม่สำหรับเกษตรกรไทย ทำให้ขาดความรู้ในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ส่งผลให้พบปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การเก็บผลอ่อนเกินไป ผลผลิตช้ำเสียหาย หรือได้ผลผลิตเน่าเสีย อันเนื่องมาจากโรคและแมลงศัตรูเข้าทำลาย ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดตาก (ดอยมูเซอ) จึงได้นำเกษตรกรผู้ปลูกอะโวกาโดไปเรียนรู้เรื่องเทคนิคการปลูกอะโวกาโด ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง เชียงใหม่
ขณะที่ต้นอะโวกาโดยังเติบโตได้ไม่เต็มที่ ระหว่างรอการเก็บเกี่ยว อาเปาปลูกฟักทอง เป็นพืชร่วมแปลง เพราะใช้ระยะเวลาปลูกสั้น แถมฟักทองยังเป็นพืชผักที่ตลาดต้องการตลอดทั้งปี นอกจากนี้ เขายังปลูกกาแฟแซมในแปลงปลูกอะโวกาโดอีกด้วย
.
อะโวกาโดสายพันธุ์แฮสส์ เป็นสินค้าขายดี อันดับ 1 แต่การทำน้ำหนักผลผลิตต่อไร่จะสู้อะโวกาโดพันธุ์ปีเตอร์สันไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การปลูกอะโวกาโดหลากหลายสายพันธุ์ก็ช่วยให้มีรายได้ต่อเนื่อง ปีที่แล้วอาเปาเก็บผลผลิตออกขายได้ประมาณ 3 ตันกว่า ขายส่งในราคากิโลกรัมละ 60-70 บาท สร้างรายได้กว่าแสนบาท ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ที่เขาพึงพอใจ เพราะหักต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเหลือผลกำไรก้อนโต
ขอบคุณข้อมูล
https://www.technologychaoban.com/bullet-new…/article_157954
☎️ปรึกษาปัญหาเกษตรโทร.02-104-9999
? ช่องทำเกษตรอินทรีย์ ? https://bit.ly/เกษตรเพียวเพียว
—————————
?กด Like ? และ ติดตามเพจ ?
เพื่อรับข่าวสารด้านเกษตรก่อนใครได้ที่นี่
#ช่องเกษตรนิวส์ ดูได้ที่กล่อง PSI ? หมายเลข 72